การใช้งานโดรนที่เพิ่มมากขึ้นทั่วโลก ทำให้แต่ละประเทศต้องออกกฎหมายควบคุมเพื่อความปลอดภัยและความเป็นระเบียบ วันนี้เราจะมาเจาะลึกความแตกต่างของกฎหมายโดรนในประเทศไทยเทียบกับต่างประเทศที่น่าสนใจ
กฎหมายโดรนในประเทศไทย: สิ่งที่ผู้บินต้องรู้
การขึ้นทะเบียนโดรน
ในประเทศไทย กำหนดให้โดรนที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 250 กรัมขึ้นไปต้องขึ้นทะเบียนกับ กสทช. โดยแบ่งเป็น 5 ประเภทตามวัตถุประสงค์การใช้งาน ได้แก่ งานอดิเรก การแข่งขัน เพื่อความบันเทิง เชิงพาณิชย์ และงานวิจัย
ข้อจำกัดการบิน
- ห้ามบินสูงเกิน 90 เมตร
- ห้ามบินใกล้สนามบินในรัศมี 9 กิโลเมตร
- ห้ามบินเหนือพื้นที่หวงห้าม เช่น สถานที่ราชการ
- ต้องบินในระยะที่มองเห็นโดรนได้ตลอดเวลา
- ห้ามบินในเวลากลางคืน
กฎหมายโดรนในสหรัฐอเมริกา
การขึ้นทะเบียน
FAA (Federal Aviation Administration) กำหนดให้โดรนที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 250 กรัมถึง 25 กิโลกรัมต้องลงทะเบียน โดยแบ่งเป็น:
- ประเภทงานอดิเรก (Recreational)
- ประเภทเชิงพาณิชย์ (Commercial)
ข้อจำกัดการบิน
- ห้ามบินสูงเกิน 120 เมตร
- ต้องบินในระยะสายตา
- ห้ามบินเหนือฝูงชน
- ต้องขออนุญาตพิเศษสำหรับการบินกลางคืน
กฎหมายโดรนในสหภาพยุโรป (EU)
EASA (European Union Aviation Safety Agency) ได้กำหนดกฎระเบียบที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วทั้ง EU โดยแบ่งประเภทโดรนตามความเสี่ยง:
การแบ่งประเภท
- Open Category (ความเสี่ยงต่ำ)
- Specific Category (ความเสี่ยงปานกลาง)
- Certified Category (ความเสี่ยงสูง)
ข้อกำหนดพิเศษ
- ต้องลงทะเบียนผู้บินและโดรน
- ต้องผ่านการอบรมออนไลน์
- ต้องมีระบบ Remote ID
- มีการประกันภัยภาคบังคับ
เปรียบเทียบบทลงโทษ
ประเทศไทย
- ปรับสูงสุด 100,000 บาท
- จำคุกไม่เกิน 1 ปี
สหรัฐอเมริกา
- ปรับสูงสุด 250,000 ดอลลาร์
- จำคุกไม่เกิน 3 ปี
สหภาพยุโรป
- บทลงโทษขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศสมาชิก
- ปรับสูงสุดอาจถึง 100,000 ยูโร
ข้อแตกต่างที่น่าสนใจ
- ความเข้มงวดในการบังคับใช้
- ไทย: เน้นการขึ้นทะเบียนและควบคุมการบิน
- ต่างประเทศ: เน้นระบบใบอนุญาตและการอบรม
- ระบบประกันภัย
- ไทย: ยังไม่บังคับ
- EU และญี่ปุ่น: บังคับทำประกันภัย
- การบินเชิงพาณิชย์
- ไทย: ต้องขออนุญาตเป็นกรณีพิเศษ
- สหรัฐฯ: มีระบบใบอนุญาตที่ชัดเจน
- EU: แบ่งตามประเภทความเสี่ยง
แนวโน้มกฎหมายโดรนในอนาคต
- การเพิ่มความเข้มงวดด้านความปลอดภัย
- การพัฒนาระบบ Remote ID
- การบังคับใช้ประกันภัยภาคบังคับ
- การปรับปรุงกฎระเบียบตามเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้น
คำแนะนำสำหรับผู้บินโดรน
- ศึกษากฎหมายให้ละเอียดก่อนบิน
- ตรวจสอบพื้นที่ห้ามบินล่วงหน้า
- ทำประกันภัยแม้ไม่บังคับ
- เก็บหลักฐานการขึ้นทะเบียนติดตัว
- ติดตามการเปลี่ยนแปลงกฎหมายอย่างสม่ำเสมอ
สรุป
การเปรียบเทียบกฎหมายโดรนระหว่างไทยและต่างประเทศ ทำให้เห็นว่าแต่ละประเทศมีจุดเน้นในการควบคุมที่แตกต่างกัน แต่มีเป้าหมายหลักเดียวกันคือความปลอดภัยในการใช้น่านฟ้า ผู้บินโดรนควรศึกษากฎหมายให้ดีก่อนบิน โดยเฉพาะเมื่อต้องนำโดรนไปบินในต่างประเทศ