🚀 เปรียบเทียบ AI ชั้นนำ 8 รุ่น ปี 2025
ChatGPT-5
Gemini 2.5 Pro
Claude Opus 4.1
Grok 4
Qwen
DeepSeek-R1
Kimi K2
Gemini 2.5 Flash
🏆 ผู้ชนะในแต่ละภารกิจ
💰 เปรียบเทียบราคา (Input Token / 1M)
📍 สรุปข้อแนะนำ
เปรียบเทียบ AI ชั้นนำ 8 รุ่นในปี 2025
ภาพรวมตลาด AI ในเดือนสิงหาคม 2025
ตลาด AI ในปัจจุบันแบ่งเป็นสามค่ายหลักคือ กลุ่มตะวันตก (OpenAI, Google, Anthropic, xAI) ที่เน้นความสามารถระดับสูงแต่ราคาแพง กลุ่มจีน (Alibaba, DeepSeek, Moonshot AI) ที่มอบประสิทธิภาพใกล้เคียงในราคาถูกกว่า 10-100 เท่า และ การแข่งขันด้านความสามารถเฉพาะทาง ที่แต่ละโมเดลพยายามสร้างจุดเด่นที่แตกต่าง โดยที่น่าสนใจคือโมเดลจีนหลายตัวเปิดให้ใช้งานฟรีหรือเป็น open source ทำให้นักพัฒนาทั่วโลกเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
1. ความสามารถและจุดเด่นของแต่ละโมเดล
ChatGPT-5 (OpenAI)
จุดเด่นหลัก: ระบบ unified routing อัจฉริยะที่เลือกใช้โมเดลย่อยให้เหมาะกับงาน ลด hallucination 45% เมื่อเทียบกับ GPT-4o และมีผู้ใช้งานมากถึง 700 ล้านคนต่อสัปดาห์
ความสามารถพิเศษ
- SWE-bench Verified 74.9% แสดงความเก่งด้านการเขียนโค้ด
- AIME 2025 คณิตศาสตร์ 99.6% (100% เมื่อใช้เครื่องมือช่วย)
- รองรับวิดีโอได้ถึง 256 เฟรม
- Context window 400K tokens input, 128K output
ข้อควรระวัง
การเปิดตัวเมื่อ 7 สิงหาคม 2025 ได้รับเสียงวิจารณ์หนักจากผู้ใช้ว่าตอบสนองแย่กว่า GPT-4o ทำให้ OpenAI ต้องให้ผู้ใช้เลือกกลับไปใช้โมเดลเก่าได้
Gemini 2.5 Flash และ Pro (Google)
จุดเด่นหลัก: Context window ใหญ่ที่สุดถึง 1 ล้าน tokens (เตรียมขยายเป็น 2 ล้าน) พร้อมความสามารถ multimodal ครบถ้วนทั้งข้อความ เสียง รูปภาพ และวิดีโอ
ความแตกต่างระหว่างสองรุ่น
- Pro: เหมาะกับงานซับซ้อน SWE-bench 63.2%, AIME 2025 83%
- Flash: เร็วกว่า 20-30% ประหยัดค่าใช้จ่าย ยังคง SWE-bench 60.4%
- Flash-Lite: ถูกที่สุด เหมาะงานปริมาณมาก
จุดเด่นพิเศษ
Deep Think mode สำหรับการคิดวิเคราะห์เชิงลึก และ Deep Research ที่ค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์หลายร้อยแห่งอัตโนมัติ
Claude Sonnet 4 และ Opus 4.1 (Anthropic)
จุดเด่นหลัก: แชมป์การเขียนโค้ดด้วย SWE-bench 72.7% และมีกรอบจริยธรรม Constitutional AI ที่โปร่งใส 77 หลักการจากปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน
ความสามารถพิเศษ
- เขียนโค้ดต่อเนื่องได้นานกว่า 7 ชั่วโมง
- Context window 200K tokens (Sonnet 4 API รองรับถึง 1M)
- Extended thinking mode ที่แสดงกระบวนการคิดได้ถึง 64K tokens
- ไม่ใช้ข้อมูลผู้ใช้ในการ train โมเดล (API/Enterprise)
ข้อจำกัด
แพงที่สุดในตลาด ($15/$75 ต่อล้าน tokens) และไม่สามารถสร้างรูปภาพหรือวิดีโอได้
Grok 4 (xAI)
จุดเด่นหลัก: เข้าถึงข้อมูล real-time จาก X (Twitter) และได้คะแนนสูงสุดใน Humanity's Last Exam 50.7% (โมเดลแรกที่ทำได้เกิน 50%)
ความสามารถพิเศษ
- พารามิเตอร์มหาศาลคาดว่า 2.4 ล้านล้านตัว
- ARC-AGI V2 15.9% (เกือบสองเท่าของคู่แข่ง)
- บุคลิกภาพ “กบฏ” ที่ตอบคำถาม “แสบคัน” ได้
ข้อควรระวัง
มีประวัติการสร้างเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม และถูกกล่าวหาว่ามีอคติทางการเมือง
Qwen (Alibaba)
จุดเด่นหลัก: รองรับ 119 ภาษา เป็น open source (Apache 2.0) และมีประสิทธิภาพสูงด้วยการ train ข้อมูล 36 ล้านล้าน tokens
ความสามารถพิเศษ
- MMLU 90.8% แซง GPT-4o
- รองรับ multimodal ครบถ้วน (Qwen2.5-Omni-7B)
- ราคาถูกมาก Qwen-Turbo เพียง $0.0525 ต่อล้าน input tokens
DeepSeek (จีน)
จุดเด่นหลัก: แชมป์การเขียนโค้ดระดับผู้เชี่ยวชาญ Codeforces rating 2029 (GPT-4o ได้แค่ 759) และ train โมเดลด้วยเงินเพียง 5.6 ล้านดอลลาร์
ความสามารถพิเศษ
- DeepSeek-R1 ขนาด 671B พารามิเตอร์ แต่ใช้งานแค่ 37B ต่อ token
- LiveCodeBench 65.9% pass rate
- ราคา API ถูกกว่า OpenAI 30 เท่า
Kimi K2 (Moonshot AI)
จุดเด่นหลัก: ออกแบบมาเพื่องาน agentic โดยเฉพาะ ด้วยสถาปัตยกรรม MoE 1 ล้านล้านพารามิเตอร์ (ใช้งาน 32B) และ 384 experts
ความสามารถพิเศษ
- SWE-bench 65.8% (71.6% เมื่อ retry)
- Context 128K tokens เหมาะกับเอกสารยาว
- ราคา input เพียง $0.15 ต่อล้าน tokens (ถูกกว่า Claude 100 เท่า!)
2. ความเหมาะสมในการใช้งานแต่ละภารกิจ
การเขียนโค้ดและพัฒนาซอฟต์แวร์
- อันดับ 1: Claude Opus 4.1 — SWE-bench 72.5% เขียนโค้ดต่อเนื่อง 7+ ชั่วโมง เหมาะกับโปรเจกต์ซับซ้อน
- อันดับ 2: GPT-5 — SWE-bench 74.9% ระบบ routing อัจฉริยะ เหมาะกับงาน frontend
- อันดับ 3: DeepSeek-R1 — Codeforces 2029 เก่งด้านอัลกอริทึม ราคาถูก
- ทางเลือกประหยัด: Kimi K2 หรือ DeepSeek-R1-Distill
การสร้างเนื้อหาและงานเขียนเชิงสร้างสรรค์
- อันดับ 1: Claude Sonnet 4 — เขียนเป็นธรรมชาติ มีกรอบจริยธรรมชัดเจน
- อันดับ 2: Gemini 2.5 Pro — Deep Research ค้นคว้าลึก
- อันดับ 3: GPT-5 — ฐานผู้ใช้ใหญ่ เข้าใจสไตล์หลากหลาย
- หลีกเลี่ยง: Grok 4 อาจ “แสบคัน” เกินไปสำหรับงานธุรกิจ
การวิเคราะห์ข้อมูลและการคำนวณ
- อันดับ 1: Gemini 2.5 Pro — Context 1M tokens เหมาะกับข้อมูลใหญ่
- อันดับ 2: GPT-5 — AIME 2025 คณิตศาสตร์ 100% (เมื่อใช้เครื่องมือ)
- อันดับ 3: Kimi K2 — MATH-500 97.4% พร้อมความสามารถ agentic
การแปลภาษา
- อันดับ 1: Qwen — รองรับ 119 ภาษา
- อันดับ 2: Gemini 2.5 Flash — แปล multimodal
- อันดับ 3: Claude — รักษาบริบททางวัฒนธรรม
การตอบคำถามและให้ข้อมูล
- อันดับ 1: Grok 4 — ข้อมูล real-time จาก X
- อันดับ 2: Gemini 2.5 Pro — Google Search grounding
- อันดับ 3: GPT-5 — ลด hallucination 45%
การช่วยงานวิจัยและวิชาการ
- อันดับ 1: Claude Opus 4.1 — GPQA Diamond 83.3%
- อันดับ 2: Gemini 2.5 Pro — Deep Research จากหลายร้อยเว็บไซต์
- อันดับ 3: Grok 4 Heavy — Humanity's Last Exam 50.7%
การสนทนาและให้คำปรึกษา
- อันดับ 1: Claude Sonnet 4 — Constitutional AI ปลอดภัย ให้คำแนะนำมีจริยธรรม
- อันดับ 2: GPT-5 — ประสบการณ์สนทนาดี ฐานผู้ใช้ใหญ่
- อันดับ 3: Gemini 2.5 Flash — ตอบเร็ว ราคาประหยัด
3. ราคาและความคุ้มค่าในการใช้งาน
กลุ่มพรีเมียม (แพงแต่คุ้มค่า)
- Claude Opus 4.1: $15/$75 ต่อล้าน tokens — แพงที่สุดแต่เก่งด้านโค้ด
- GPT-5: $1.25/$10 ต่อล้าน tokens — ราคากลาง ฟีเจอร์ครบ
- Gemini 2.5 Pro: $1.25-2.50/$10-15 — context ใหญ่ เหมาะงานข้อมูลใหญ่
กลุ่มสมดุล (ราคาปานกลาง)
- Claude Sonnet 4: $3/$15 — สมดุลดี
- Grok 4: $3/$15 — real-time คุ้มค่างานข่าวสาร
- Gemini 2.5 Flash: $0.30/$2.50 — เร็ว ประหยัด
กลุ่มประหยัด (คุ้มค่าสูงสุด)
- DeepSeek-R1: $0.55/$2.19 — ถูกกว่า OpenAI 30 เท่า
- Kimi K2: $0.15/$2.50 — input ถูกที่สุด เหมาะงาน agentic
- Qwen-Turbo: $0.0525/$0.21 — ถูกมาก และเป็น open source
การเปรียบเทียบแพ็กเกจรายเดือน
- ระดับพื้นฐาน ($20/เดือน): ChatGPT Plus, Claude Pro, Google AI Pro
- ระดับพรีเมียม ($100-200/เดือน): ChatGPT Pro, Claude Max, SuperGrok
- ระดับองค์กร: ราคาเจรจาได้ มีฟีเจอร์เพิ่มเติม
4. ข้อจำกัดของแต่ละโมเดล
GPT-5
- ผู้ใช้บ่นว่าแย่กว่า GPT-4o ตอบสั้น ขาดความคิดสร้างสรรค์
- ยังมีข้อผิดพลาดพื้นฐาน เช่น นับตัวอักษรผิด
- Session reset และปัญหา sync บ่อย
Gemini 2.5 Pro/Flash
- เอกสารด้านความปลอดภัยไม่สมบูรณ์เท่า Claude
- จำกัดการใช้งาน 50-100 queries/วัน สำหรับ Pro tier
- ประสิทธิภาพลดลงเมื่อใช้ context เกิน 70K tokens
Claude Sonnet 4/Opus 4.1
- แพงที่สุดในตลาด อาจไม่คุ้มสำหรับงานทั่วไป
- ไม่สามารถสร้างรูปภาพ วิดีโอ หรือเสียง
- บางครั้งระมัดระวังเกินไป ตอบอ้อมค้อม
Grok 4
- มีประวัติสร้างเนื้อหาไม่เหมาะสม (MechaHitler incident)
- ถูกกล่าวหาว่ามีอคติทางการเมือง
- ใช้งานได้จำกัดผ่าน X Premium เท่านั้น
โมเดลจีน (Qwen, DeepSeek, Kimi K2)
- ความกังวลด้านความเป็นส่วนตัวของข้อมูล
- การสนับสนุนระยะยาวยังไม่แน่นอน
- บางครั้งมีปัญหาการผสมภาษา (language mixing)
5. ข้อแนะนำในการเลือกใช้ตามความต้องการ
สำหรับนักพัฒนาและโปรแกรมเมอร์
- งบประมาณสูง: Claude Opus 4.1 — คุณภาพโค้ดสูงสุด
- งบประมาณปานกลาง: GPT-5 — ฟีเจอร์ครบ ชุมชนใหญ่
- งบประมาณจำกัด: DeepSeek-R1 — ประสิทธิภาพดี ราคาถูก
สำหรับนักเขียนและ Content Creator
- เน้นคุณภาพ: Claude Sonnet 4
- เน้นข้อมูล: Gemini 2.5 Pro — Deep Research
- เน้นความเร็ว: Gemini 2.5 Flash
สำหรับนักวิจัยและนักวิชาการ
- งานวิจัยเชิงลึก: Claude Opus 4.1 + Gemini 2.5 Pro (ใช้คู่กัน)
- งานวิเคราะห์ข้อมูล: Gemini 2.5 Pro — context 1M tokens
- งานแปลภาษา: Qwen — รองรับ 119 ภาษา
สำหรับธุรกิจและองค์กร
- Enterprise ขนาดใหญ่: GPT-5 หรือ Claude Enterprise — มั่นคง ปลอดภัย
- SME งบจำกัด: Gemini 2.5 Flash หรือ DeepSeek — คุ้มค่า
- Startup: โมเดลจีน (Qwen, DeepSeek, Kimi) — ประหยัดมาก
สำหรับผู้ใช้ทั่วไป
- ใช้งานเบา: ChatGPT Free หรือ Claude Free — ไม่เสียค่าใช้จ่าย
- ใช้งานปานกลาง: ChatGPT Plus ($20/เดือน) — คุ้มค่า
- ใช้งานหนัก: พิจารณา API ของโมเดลจีน — ประหยัด
บทสรุปและมุมมองอนาคต
ตลาด AI ในปี 2025 แสดงให้เห็นการแข่งขันที่ดุเดือดและการพัฒนาที่รวดเร็ว โมเดลตะวันตกยังคงนำในด้านนวัตกรรมและฟีเจอร์ใหม่ ขณะที่โมเดลจีนสร้างแรงกดดันด้านราคาอย่างหนัก การเลือกใช้ AI ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับสามปัจจัยหลักคือ งบประมาณ ลักษณะงาน และ ความต้องการเฉพาะ
แนวโน้มที่น่าจับตาคือ ราคา API กำลังลดลงอย่างรวดเร็วจากการแข่งขัน Context window กำลังขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และความสามารถ multimodal กลายเป็นมาตรฐาน ในอนาคตอันใกล้ เราอาจเห็นการรวมตัวของผู้เล่นรายย่อย และการเกิดขึ้นของโมเดลเฉพาะทางมากขึ้น
สิ่งสำคัญที่สุดคือการทดลองใช้จริงกับงานของคุณ เนื่องจากประสิทธิภาพบน benchmark อาจไม่สะท้อนผลการใช้งานจริงเสมอไป แนะนำให้เริ่มจากแพ็กเกจทดลองใช้ฟรีหรือราคาถูกก่อน แล้วค่อยปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม