อนาคตแห่งสมรภูมิ
ภาพฉายลักษณะของสงคราม ปี 2025-2035
ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า
40%
มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดสงครามโลกครั้งใหม่ภายในปี 2035
ที่มา: Atlantic Council Survey, 2025
1. ภูมิทัศน์โลกที่เปลี่ยนไป: สู่ยุคหลายขั้วอำนาจ
โลกกำลังเปลี่ยนจากยุคขั้วอำนาจเดียวสู่สภาวะการแข่งขันที่ซับซ้อนระหว่างมหาอำนาจและพันธมิตรเฉพาะกิจ ซึ่งสร้างสภาพแวดล้อมที่ผันผวนและเสี่ยงต่อความขัดแย้งสูงขึ้น
การปะทะกันทางหลักนิยม
สงครามลูกผสม (Hybrid Warfare)
การผสมผสานเครื่องมือทางทหารและที่ไม่ใช่ทหาร (ไซเบอร์, ข้อมูลเท็จ, เศรษฐกิจ) เพื่อบรรลุเป้าหมายใน "เขตสีเทา" ที่เส้นแบ่งระหว่างสงครามและสันติภาพเลือนลาง
ปฏิบัติการหลายมิติ (Multi-Domain Ops)
การบูรณาการปฏิบัติการทางทหารทั้ง 5 มิติ (บก, ทะเล, อากาศ, อวกาศ, ไซเบอร์) อย่างไร้รอยต่อ เพื่อสร้างสภาวะลำบากใจให้ศัตรูพร้อมกันจากทุกทิศทาง
ศูนย์กลางการตัดสินใจยุคใหม่: CJADC2
หัวใจของปฏิบัติการหลายมิติคือเครือข่ายบัญชาการและควบคุมที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อเชื่อมโยงทุกหน่วยรบและเร่งวงรอบการตัดสินใจให้เร็วกว่าศัตรู
อวกาศ
อากาศ
CJADC2
บก
ทะเล
ไซเบอร์
2. การปฏิวัติทางเทคโนโลยีในสนามรบ
เทคโนโลยีพลิกผันกำลังเปลี่ยนโฉมหน้าของสงครามอย่างสิ้นเชิง นำไปสู่ระบบที่ฉลาดขึ้น เร็วขึ้น มีจำนวนมากขึ้น และอันตรายกว่าที่เคย
ระดับความพร้อมใช้ของเทคโนโลยีสำคัญภายในปี 2035
แสดงระดับความพร้อมใช้งานและการแพร่หลายของเทคโนโลยีทางทหารที่สำคัญ
การเปลี่ยนกระบวนทัศน์: จากคุณภาพสู่ปริมาณ
สนามรบในอนาคตจะถูกครอบงำโดย "มวลสารที่สูญเสียได้" (Attritable Mass) เช่น ฝูงโดรนราคาถูก มากกว่า "ยุทโธปกรณ์ชั้นเลิศ" (Exquisite Platform) ที่มีราคาแพงและมีจำนวนน้อย
3. กลยุทธ์ดาวิดปะทะโกไลแอธ: ประเทศเล็กจะสู้ได้อย่างไร?
ประเทศเล็กไม่สามารถสู้แบบสมมาตรได้ แต่สามารถใช้ "ยุทธศาสตร์แบบอสมมาตร" เพื่อเปลี่ยนจุดแข็งของมหาอำนาจให้กลายเป็นจุดอ่อน และสร้างต้นทุนการรุกรานที่สูงจนยอมรับไม่ได้
ยุทธศาสตร์เม่น (Porcupine Strategy)
ทำให้ตัวเองเป็นเป้าหมายที่ "กลืนไม่เข้าคายไม่ออก" ด้วยการลงทุนในขีดความสามารถป้องกันต้นทุนต่ำแต่ส่งผลกระทบสูง
เป้าหมาย
การตอบโต้จุดอ่อนของมหาอำนาจ
เปรียบเทียบจุดอ่อนของมหาอำนาจกับขีดความสามารถแบบอสมมาตรที่สามารถตอบโต้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. ความจำเป็นเชิงยุทธศาสตร์สำหรับอนาคต
สร้างความเข้มแข็งของชาติ
ใช้แนวทางแบบองค์รวมทั้งสังคม (Whole-of-Society) เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงในทุกมิติ
จัดลำดับความสำคัญ
ลงทุนในขีดความสามารถแบบอสมมาตร (โดรน, ไซเบอร์, EW) แทนยุทโธปกรณ์เพื่อเกียรติภูมิ
พัฒนากำลังพล
บ่มเพาะทหารที่เชี่ยวชาญเทคโนโลยี มีความคล่องตัว และมีพื้นฐานทางจริยธรรมที่เข้มแข็ง
สร้างพันธมิตร
พันธมิตรคือตัวคูณกำลังรบที่สำคัญที่สุดในการเข้าถึงเทคโนโลยี ข่าวกรอง และการสนับสนุน
เทคโนโลยีที่จะปฏิวัติสนามรบ 2025-2035
นวัตกรรมสำคัญที่ต้องรับมือ
- ระบบอัตโนมัติและฝูงโดรน (Drone Swarms): ใช้โดรนราคาถูกจำนวนมากที่ทำงานร่วมกันด้วย AI สามารถโจมตีเป้าหมายมูลค่าสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในทุกมิติ: เป็นหัวใจของระบบบัญชาการและควบคุม (C2) ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลจากเซ็นเซอร์และตัดสินใจได้เร็วกว่ามนุษย์ (CJADC2)
- สงครามไซเบอร์เชิงรุก (Offensive Cyber Operations): โจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของชาติ เช่น ระบบไฟฟ้า ประปา การเงิน และการสื่อสาร
- อาวุธความเร็วเหนือเสียง (Hypersonic Weapons): เร็วกว่าเสียง 5 เท่า เคลื่อนที่ได้คล่องตัว ทำให้ระบบป้องกันในปัจจุบันแทบสกัดไม่ได้
- สงครามในอวกาศ (Space Warfare): การโจมตีดาวเทียมทั้งทางกายภาพและด้วยการก่อกวนสัญญาณหรือไซเบอร์
- อาวุธชีวภาพดัดแปลงพันธุกรรม: เทคโนโลยี CRISPR ทำให้สามารถสร้างเชื้อโรคที่รุนแรงหรือดื้อยาได้ง่าย
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงและความท้าทาย
- เส้นแบ่งระหว่างสงครามและสันติภาพเลือนลาง: เกิดสภาวะ “เขตสีเทา” และสงครามลูกผสม
- สมรภูมิที่บูรณาการทุกมิติ: ปฏิบัติการหลายมิติ (MDO) รวมบก ทะเล อากาศ อวกาศ และไซเบอร์
- ความเร็วคือปัจจัยชี้ขาด: ฝ่ายที่ตัดสินใจเร็วกว่าโดยใช้ AI จะได้เปรียบ
- ปัญหาทางจริยธรรม: การใช้อาวุธอัตโนมัติและคำถามเกี่ยวกับ “การควบคุมโดยมนุษย์อย่างมีความหมาย”
ประเทศเล็กจะสู้ประเทศใหญ่ได้หรือไม่?
คำตอบ: “ใช่” แต่ต้องใช้ยุทธศาสตร์แบบชาญฉลาด โดยเน้นยุทธศาสตร์แบบอสมมาตร (Asymmetric Strategy)
แนวทางสำคัญ
- ยุทธศาสตร์เม่น (Porcupine Strategy): ลงทุนในอาวุธป้องกันราคาถูกแต่มีประสิทธิภาพ เช่น ขีปนาวุธต่อต้านเรือ ระบบป้องกันภัยทางอากาศเคลื่อนที่ ฝูงโดรนพลีชีพ
- โจมตีจุดอ่อนของมหาอำนาจ: ใช้สงครามอิเล็กทรอนิกส์ (EW) และการโจมตีไซเบอร์เพื่อรบกวนสัญญาณและทำลายระบบบัญชาการ
- สงครามข่าวสาร (Information Warfare): บ่อนทำลายความสามัคคีของสังคมฝ่ายตรงข้าม
- นวัตกรรมรวดเร็ว: พัฒนาเทคโนโลยีทางทหารอย่างคล่องตัวเหมือนยูเครน
- สร้างพันธมิตร: เพื่อเข้าถึงเทคโนโลยี ข่าวกรอง และการสนับสนุน
요약
ในทศวรรษหน้า ประเทศเล็กสามารถป้องกันตนเองจากประเทศใหญ่ได้โดยหลีกเลี่ยงการสู้รบโดยตรง และใช้เทคโนโลยีราคาถูกแต่จำนวนมาก เช่น โดรนและไซเบอร์ เพื่อสร้างต้นทุนการรุกรานสูงเกินกว่าที่ฝ่ายตรงข้ามจะยอมรับ
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
พร้อมให้คำปรึกษาและข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโดรน
LINE: @droneth คลิกเพื่อเพิ่มเพื่อน →