Drone Association Thailand

ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา: สมรภูมิลูกผสมแห่งศตวรรษที่ 21

อินโฟกราฟิก: วิเคราะห์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา 2568 (Gemini API)

จุดปะทุ 2568

วิเคราะห์ความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา: สมรภูมิลูกผสมแห่งศตวรรษที่ 21

อัปเดตล่าสุด: 15 ส.ค. 2568, 14:30 น.

II. แผนที่สมรภูมิ: จุดปะทะสำคัญ

ภาพรวมพื้นที่การปะทะหลักตามแนวชายแดน ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่มีการสู้รบอย่างหนักหน่วงและสะท้อนถึงเจตนาทางทหารของทั้งสองฝ่าย

💥

ช่องบก, จ.อุบลราชธานี

จุดปะทะแรกและเป็นชนวนของความขัดแย้ง มีการสู้รบด้วยปืนใหญ่และจรวด BM-21 อย่างหนัก

💥

ภูมะเขือ, จ.ศรีสะเกษ

เป้าหมายการโจมตีทางอากาศของ F-16 ไทย และเป็นพื้นที่ที่ไทยสามารถยึดคืนได้ทั้งหมด

💥

กลุ่มปราสาทตาเมือน, จ.สุรินทร์

พื้นที่ปะทะรุนแรง มีการใช้รถถังและทหารราบเข้าต่อสู้ และเป็นเป้าหมายการโจมตีทางอากาศของไทย

💥

บ้านชำราก, จ.ตราด

กัมพูชาเปิดแนวรบใหม่ นำไปสู่ยุทธการ "ตราดพิฆาตไพรี 1" ของกองทัพเรือไทย

จ.อุบลราชธานี / ศรีสะเกษ
จ.สุรินทร์ / บุรีรัมย์
จ.จันทบุรี / ตราด

I. สมรภูมิอสมมาตร: การเปรียบเทียบกำลังรบ

แม้ไทยจะมีความเหนือกว่าในสงครามตามแบบ แต่กัมพูชาได้เลือกใช้ยุทธศาสตร์การป้องปรามแบบอสมมาตร โดยเน้นพัฒนาระบบอาวุธที่สามารถสร้างความเสียหายรุนแรงเพื่อชดเชยความเสียเปรียบทางทหาร

แสนยานุภาพทางอากาศและทางเรือ

ไทยครองความได้เปรียบอย่างเด็ดขาด ทำให้สามารถควบคุมน่านฟ้าและน่านน้ำได้อย่างสมบูรณ์

อำนาจการยิงภาคพื้นดิน

กัมพูชาลงทุนอย่างมหาศาลในระบบจรวดหลายลำกล้อง (MLRS) ซึ่งเป็นภัยคุกคามสำคัญต่อที่ตั้งทางทหารและพื้นที่เศรษฐกิจของไทย

III. ลำดับเหตุการณ์สู่ความขัดแย้ง

ก่อนปี 2552

จีนเริ่มให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่กัมพูชา ก่อตั้งสถาบันกองทัพบก (2542) และเริ่มหลักสูตรฝึกนักเรียนนายร้อย (2552) สร้างรากฐานอิทธิพลทางทหาร

ทศวรรษ 2550s

อิทธิพลจีนขยายตัวผ่านการลงทุน (BRI) และการให้ยุทโธปกรณ์ (ฮ. Z-9 ปี 2556) ขณะที่ความสัมพันธ์ทางทหารของกัมพูชากับสหรัฐฯ ลดลง

พฤษภาคม 2568

สื่อไทยเริ่มตั้งคำถามถึงแหล่งทุนของกองทัพกัมพูชา เชื่อมโยงกับธุรกิจสีเทา ก่อนที่กัมพูชาจะเริ่มเสริมกำลังตามแนวชายแดน

มิถุนายน 2568

ความตึงเครียดทางการทูตปะทุขึ้นหลังการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างผู้นำไทย-กัมพูชาถูกเปิดเผย ส่งผลให้การค้าชายแดนเริ่มลดลง

กลางกรกฎาคม 2568

สถานการณ์เลวร้ายลง: กัมพูชาสั่งห้ามนำเข้าสินค้าไทย, ทหารไทยบาดเจ็บจากทุ่นระเบิด, และเกิดวาทกรรม "ไม่ต้องรอคำสั่ง" จากผู้นำทัพ

24-26 กรกฎาคม 2568

การสู้รบเต็มรูปแบบปะทุขึ้น กัมพูชาโจมตีพื้นที่พลเรือน ทอ.ไทยส่ง F-16 และ Gripen ตอบโต้เป้าหมายทางทหาร ยอดผู้ได้รับผลกระทบพุ่งสูง

26 กรกฎาคม 2568 (การทูต)

สหรัฐฯ, จีน, และ UN เข้ามามีบทบาทเรียกร้องให้หยุดยิง ทั้งสองฝ่ายตอบรับข้อเสนอของ ปธน. ทรัมป์ ที่จะเจรจา

28 กรกฎาคม 2568

บรรลุข้อตกลงหยุดยิงอย่างไม่มีเงื่อนไข ณ เมืองปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย มีผลเที่ยงคืน

ต้นสิงหาคม 2568

เกิดกระแสต่อต้านสินค้าไทยในกัมพูชาหลังการประท้วง มีการประชุม GBC ที่มาเลเซียเพื่อยืนยันข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อ

13-14 สิงหาคม 2568

ความตึงเครียดยังคงอยู่: ไทยตรวจพบโดรนสอดแนมจำนวนมาก ขณะที่สื่อเยอรมันวิเคราะห์ถึงอำนาจที่เพิ่มขึ้นของกองทัพไทย

14-15 สิงหาคม 2568

สงครามข่าวสารเข้มข้นขึ้น กัมพูชากล่าวหาไทยจัดฉากเรื่องทุ่นระเบิด ขณะที่ไทยโต้กลับเรื่องการละเมิดข้อตกลงและเรียกร้องให้ปล่อยตัวเชลยศึก

IV. ต้นทุนแห่งสงคราม: ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจและมนุษย์

การปะทะได้สร้างบาดแผลลึกทั้งต่อชีวิตผู้คนและระบบเศรษฐกิจตามแนวชายแดน สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงของความขัดแย้ง

ผู้เสียชีวิต (ฝ่ายไทย)

31 ราย

(ทหาร 15, พลเรือน 16)

ผู้อพยพ (ฝ่ายไทย)

>131,000 คน

ใน 4 จังหวัดชายแดน

ความเสียหายทางเศรษฐกิจ

~1.7 หมื่นล้าน ฿/เดือน

จากการค้าชายแดนและการท่องเที่ยว

สัดส่วนผู้เสียชีวิต (ฝ่ายไทย)

มูลค่าการค้าชายแดนลดลง

V. กระดานหมากรุกภูมิรัฐศาสตร์

ความขัดแย้งนี้เป็นภาพสะท้อนการแข่งขันระหว่างมหาอำนาจ โดยมีไทยและกัมพูชาเป็นตัวแสดงสำคัญในสนามรบ ขณะที่อาเซียนมีบทบาทจำกัด

🇺🇸

สหรัฐอเมริกา

พันธมิตรหลักนอกนาโต้

สนับสนุน

🇹🇭

ประเทศไทย

🇲🇾

มาเลเซีย / อาเซียน

ผู้ไกล่เกลี่ย

🇰🇭

ประเทศกัมพูชา

สนับสนุน

🇨🇳

ประเทศจีน

หุ้นส่วนยุทธศาสตร์

VI. สมรภูมิดิจิทัล: สงครามข่าวสาร

นอกจากการรบภาคพื้นดิน ทั้งสองฝ่ายยังต่อสู้กันอย่างดุเดือดในโลกออนไลน์เพื่อควบคุมเรื่องเล่าและสร้างความชอบธรรมให้แก่ฝ่ายตน

กลยุทธ์ไทย: ชาตินิยมระดมพล 📢

กองทัพรณรงค์ให้ประชาชนใช้แฮชแท็กแสดงการสนับสนุน เพื่อปลุกขวัญกำลังใจและสร้างเอกภาพภายในประเทศ เป็นการใช้พลังของสาธารณชนเป็น "พลังทวีคูณ"

กลยุทธ์กัมพูชา: ข่าวลวงชี้นำ ❌

สื่อของรัฐและผู้มีอิทธิพลเผยแพร่ข้อมูลเท็จ เช่น คลิปวิดีโอเก่าจากสงครามอื่นมาอ้างว่ายิงเครื่องบินรบไทยตก และกล่าวหาว่าไทยใช้อาวุธต้องห้าม เพื่อทำลายภาพลักษณ์ของไทย

VIII. ดัชนีความตึงเครียด: พยากรณ์แนวโน้มการปะทะ

ดัชนีนี้เป็นการประเมินแนวโน้มความขัดแย้งโดยสังเคราะห์จากปัจจัย 4 ด้าน ได้แก่ การปฏิบัติการทางทหาร, ช่องทางการทูต, สงครามข่าวสาร, และแรงกดดันทางเศรษฐกิจ เพื่อแสดงภาพรวมของสถานการณ์ที่อาจนำไปสู่การปะทะครั้งต่อไป

ปรอทวัดระดับความตึงเครียด

วิกฤต สูง ปานกลาง ต่ำ สงบ

สถานะปัจจุบัน: ระดับสูง

กราฟเส้นแนวโน้มความขัดแย้ง (พ.ค. - ส.ค. 68)

IX. ✨ บทวิเคราะห์และแนวทางออกจากความขัดแย้งโดย AI

ใช้พลังของ Gemini AI เพื่อสร้างบทวิเคราะห์เชิงลึกและสำรวจแนวทางการทูตที่เป็นไปได้ในการคลี่คลายสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดน

พยากรณ์ความเสี่ยง

ประเมินความเสี่ยงและปัจจัยที่ต้องจับตามองในระยะสั้นจาก Gemini

แนวทางการทูต

ให้ Gemini เสนอแนวทางสร้างความไว้วางใจและขั้นตอนการเจรจาเพื่อสันติภาพ

แผนรับมือระลอกสอง

ให้ Gemini ร่างแผนเผชิญเหตุหากการปะทะปะทุขึ้นอีกครั้ง

การวิเคราะห์เชิงลึก: ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา 2568

การวิเคราะห์เชิงลึก

ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา 2568: มิติที่ซ่อนเร้นและผลกระทบระยะยาว

รายงานการวิเคราะห์เชิงยุทธศาสตร์จากสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการศึกษายุทธศาสตร์ (IISS) และข้อมูลจาก Global Firepower 2568

การวิเคราะห์ศักยภาพทางการทหารเชิงเปรียบเทียบ

การประเมินเชิงปริมาณและคุณภาพของกำลังรบทั้งสองประเทศ เผยให้เห็นถึงการออกแบบยุทธศาสตร์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

🔹 ยุทธศาสตร์แบบดั้งเดิมของไทย

  • • ความเหนือกว่าทางอากาศอย่างเด็ดขาด
  • • กำลังพลสำรองมากมายสำหรับสงครามยืดเยื้อ
  • • ยานเกราะจำนวนมหาศาลสำหรับการรุก
  • • อำนาจทางเรือครองครองทะเล
  • • งบประมาณสูงกว่า 6.8 เท่า

🔹 ยุทธศาสตร์เม่นของกัมพูชา

  • • จรวดหลายลำกล้อง (MLRS) มากที่สุดในภูมิภาค
  • • การสร้างต้นทุนสูงแก่ผู้รุกราน
  • • ยุทธวิธีป้องกันที่มั่นด้วยรถถัง
  • • การใช้ทุ่นระเบิดอย่างกว้างขวาง
  • • เน้นความเสียหายเกินสัดส่วน

รากเหง้าที่แท้จริงของความขัดแย้ง

การวิเคราะห์จาก IISS เผยให้เห็นถึงปัจจัยเชิงโครงสร้างที่อยู่เบื้องหลังการปะทุของความขัดแย้ง

การวิเคราะห์ศักยภาพทางการทหารเชิงเปรียบเทียบ

ตารางเปรียบเทียบศักยภาพทางการทหาร (พ.ศ. 2568)

รายการ ประเทศไทย ประเทศกัมพูชา อันดับโลก (ไทย) อันดับโลก (กัมพูชา) ข้อได้เปรียบ
กำลังพลประจำการ 360,850 นาย 221,000 นาย 25 95 ไทย
กำลังพลสำรอง 221,000 นาย 0 นาย ไทย
งบประมาณกลาโหม (USD) $5.89 พันล้าน ~$860 ล้าน ไทย
เครื่องบินขับไล่ 72 ลำ 0 ลำ ไทย
รถถังหลัก 635 คัน 644 คัน สมดุล
ปืนใหญ่จรวดหลายลำกล้อง 26 ระบบ 463 ระบบ กัมพูชา
ยานเกราะ 16,935 คัน 3,627 คัน ไทย
ยุทโธปกรณ์ทางเรือรวม 293 ลำ 20 ลำ ไทย
* อันดับโลกอิงตาม Global Firepower PowerIndex 2025 ล่าสุด
* หมายเหตุ: รายละเอียดตัวเลขทหารและงบประมาณอ้างอิงจากสื่อและฐานข้อมูลสากล

🎯 ธุรกิจสีเทาและอาชญากรรมข้ามชาติ

มูลค่า: 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี

ผลกระทบ: การปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของไทยคุกคามแหล่งรายได้ของผู้มีอิทธิพลในกัมพูชา

การตอบโต้: ใช้ข้อพิพาทชายแดนเป็นเหตุแห่งสงครามเพื่อเบี่ยงเบนการปราบปราม

🌏 การแข่งขันระหว่างมหาอำนาจ

สหรัฐฯ-ไทย: พันธมิตรหลักนอกนาโต้ (Major Non-NATO Ally)

จีน-กัมพูชา: หุ้นส่วนยุทธศาสตร์และผู้สนับสนุนทางทหาร

สมรภูมิทดสอบ: การเผชิญหน้าระหว่างระบบอาวุธตะวันตกและจีน

⚖️ ข้อจำกัดของวิถีอาเซียน

การล่าช้า: 5 เดือนโดยไม่มีการแทรกแซงที่มีประสิทธิภาพ

ความล้มเหลว: กลไกเตือนภัยล่วงหน้าไม่ทำงาน

ทางออก: ต้องอาศัยรูปแบบ "อาเซียนบวก" กับมหาอำนาจ

มูลค่า: 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี *ค่าประมาณสูงสุด ควรตรวจสอบแหล่งอ้างอิงเพิ่มเติม*

ผลกระทบเศรษฐกิจเชิงลึก

ตารางผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อการค้าชายแดน (มิถุนายน 2568)

รายการ มูลค่า (ล้านบาท) การเปลี่ยนแปลง (YoY) สินค้าที่ได้รับผลกระทบ
มูลค่าการค้าชายแดนรวม 10,908 -23.3% -
การส่งออกของไทยไปกัมพูชา 8,961 -23.8% เครื่องดื่ม, ส่วนประกอบรถจักรยานยนต์
มูลค่าการค้า ด่านอรัญประเทศ (ครึ่งปีแรก) 60,432 - สินค้าอุปโภคบริโภค
มูลค่าการค้า ด่านคลองใหญ่ (ครึ่งปีแรก) 15,677 - ผลิตภัณฑ์เกษตร
* ตัวเลขวิกฤตค้าแดนเดือนมิถุนายน 2568 อัปเดตจากรายงาน
* หมายเหตุ: ตัวเลข “ผลกระทบรวมต่อเดือน” พบประมาณ 10,000-14,000 ล้านบาท/เดือน (17,000 ล้านบาท = “ค่าประมาณสูงสุดในบางสำนัก”)
* การท่องเที่ยวเสียหาย 2,500-3,000 ล้านบาท/เดือน (พิจารณาตามข่าวหลัก)

📉 ความเสียหายโดยตรง

ความเสียหายรวมต่อเดือน: 17,000 ล้านบาท
การท่องเที่ยวสูญเสีย: 3,000 ล้านบาท/เดือน
บ้านเรือนเสียหาย: 256 หลัง
บ้านเสียหายทั้งหลัง: 42 หลัง

🏥 มาตรการเยียวยาจากภาครัฐ

เสียชีวิต: 1,000,000 บาท
ทุพพลภาพสาหัส: 700,000 บาท
บาดเจ็บ: 50,000 บาท
ศูนย์ช่วยเหลือ: เปิดใน 4 จังหวัด

การวิเคราะห์สงครามข่าวสารเชิงลึก

การศึกษากรณีศึกษาการใช้สงครามข่าวสารและผลกระทบต่อความรับรู้ของสาธารณะ

🇹🇭 ชาตินิยมระดมพลของไทย

กลยุทธ์หลัก:

  • • การใช้แฮชแท็กเพื่อสร้างการสนับสนุน
  • • การปลุกขวัญกำลังใจประชาชน
  • • การสร้างเอกภาพภายในประเทศ
  • • พลังทวีคูณจากสาธารณชน

ประสิทธิภาพ:

เสริมสร้างความชอบธรรมและการสนับสนุนภายในประเทศได้ดี แต่มีผลจำกัดในเวทีระหว่างประเทศ

🇰🇭 ข่าวลวงชี้นำของกัมพูชา

กลยุทธ์หลัก:

  • • วิดีโอปลอมจากสงครามอื่น
  • • การกล่าวหาการใช้อาวุธต้องห้าม
  • • การสร้างภาพลักษณ์เป็นเหยื่อ
  • • การบิดเบือนข้อเท็จจริง

วัตถุประสงค์:

สร้าง "ผลประโยชน์ของผู้มดเท็จ" ทำให้สถานการณ์คลุมเครือและบีบให้ไทยตกเป็นฝ่ายตั้งรับ

🔍 กรณีศึกษา: วิดีโอยิงเครื่องบินตกปลอม

📺 สิ่งที่เผยแพร่

วิดีโอที่อ้างว่าเป็นการยิงเครื่องบิน F-16 ไทยตก พร้อมข้อความชาตินิยมที่รุนแรง

🔍 ความจริง

คลิปวิดีโอเก่าจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ถูกนำมาใช้ซ้ำและตัดต่อใหม่

🎯 ผลกระทบ

สร้างความสับสนและบีบให้กองทัพไทยต้องเสียเวลาแก้ข่าวแทนที่จะนำเสนอเรื่องเล่าของตน

ฉากทัศน์อนาคตและการประเมินความเป็นไปได้

การวิเคราะห์แนวโน้มและการพยากรณ์สถานการณ์ในระยะ 1-3 ปีข้างหน้า

⚔️

ฉากทัศน์ที่ 1

ความเป็นไปได้: สูง (70%)

ความขัดแย้งระดับต่ำที่ยืดเยื้อ

  • • หยุดยิงที่ตึงเครียดแต่มีเสถียรภาพ
  • • การละเมิดข้อตกลงเป็นระยะ ๆ
  • • สงครามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง
  • • การทดสอบความอดทนของไทย
  • • สร้างข้อเท็จจริงใหม่ในพื้นที่
🤝

ฉากทัศน์ที่ 2

ความเป็นไปได้: ปานกลาง (25%)

การลดความตึงเครียดผ่านการเจรจา OCA

  • • ความคืบหน้าในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล
  • • แรงจูงใจทางเศรษฐกิจร่วมกัน
  • • การลดความตึงเครียดชายแดน
  • • ถูกขัดขวางโดยกระแสชาตินิยม
  • • ต้องการความเป็นผู้นำทางการเมือง
💥

ฉากทัศน์ที่ 3

ความเป็นไปได้: ต่ำ (5%)

การกลับมาของความขัดแย้งระดับสูง

  • • การคำนวณที่ผิดพลาดครั้งใหญ่
  • • วิกฤตการเมืองภายในรุนแรง
  • • แรงกดดันจากผู้สนับสนุนภายนอก
  • • ผลกระทบรุนแรงที่สุด
  • • การขยายตัวไปสู่ระดับภูมิภาค

ข้อเสนอแนะเชิงยุทธศาสตร์

แนวทางการเตรียมพร้อมและการรับมือสำหรับนักวางแผนยุทธศาสตร์ของไทย

🛡️ การพัฒนาขีดความสามารถทางทหาร

ต่อต้านภัยคุกคามแบบอสมมาตร:

  • • เรดาร์ต่อต้านปืนใหญ่
  • • ระบบลาดตระเวนและชี้เป้าด้วยโดรน
  • • ยุทโธปกรณ์เก็บกู้ทุ่นระเบิดที่ทันสมัย
  • • ระบบป้องกันภัยจาก MLRS

สงครามอิเล็กทรอนิกส์:

  • • ขีดความสามารถการรบไซเบอร์
  • • ระบบต่อต้านโดรน
  • • การสื่อสารที่ปลอดภัย
  • • เทคโนโลยีต่อต้านข่าวลวง

🤝 การทูตและความร่วมมือ

การทูตป้องกัน:

  • • เตรียมความพร้อมรับมือศาลโลก
  • • รวบรวมหลักฐานทางประวัติศาสตร์
  • • พัฒนาขีดความสามารถกฎหมายระหว่างประเทศ
  • • สร้างเครือข่ายพันธมิตร

กรอบ "อาเซียนบวก":

  • • ความร่วมมือกับมาเลเซีย อินโดนีเซีย
  • • การประสานงานกับสหรัฐฯ และจีน
  • • กลไกตอบสนองวิกฤตที่เป็นทางการ
  • • การเสริมสร้างอาเซียน

🏛️ บูรณาการพลังอำนาจแห่งชาติ

โครงสร้างบัญชาการเอกภาพ:

  • • บูรณาการการปฏิบัติการทางทหาร
  • • การสื่อสารทางการทูต
  • • นโยบายเศรษฐกิจ
  • • หน่วยงานต่อต้านข่าวลวง

การจัดการวิกฤต:

  • • แผนการอพยพประชาชน
  • • ระบบการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
  • • การเตรียมพร้อมรับมือสงครามข้อมูล
  • • การประสานงานหน่วยงาน

📊 การประเมินและปรับปรุง

การติดตามและวิเคราะห์:

  • • ระบบเฝ้าระวังและข่าวกรอง
  • • การประเมินภัยคุกคามอย่างต่อเนื่อง
  • • การวิเคราะห์แนวโน้มความขัดแย้ง
  • • การพยากรณ์สถานการณ์

การเรียนรู้และปรับตัว:

  • • บทเรียนจากความขัดแย้ง 2568
  • • การปรับปรุงกลยุทธ์และยุทธวิธี
  • • การพัฒนาขีดความสามารถใหม่
  • • การเตรียมพร้อมสำหรับภัยคุกคามอนาคต

บทสรุปสำคัญ

🎯

ภัยคุกคามใหม่

สงครามลูกผสมและยุทธวิธีอสมมาตรกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ของความขัดแย้ง

🌐

การแข่งขันโลก

ความขัดแย้งในภูมิภาคสะท้อนการแข่งขันเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างมหาอำนาจ

🔧

การปรับตัว

ประเทศไทยต้องปรับยุทธศาสตร์เพื่อรับมือกับภัยคุกคามแบบใหม่อย่างครอบคลุม

* ข้อมูลและบทวิเคราะห์อัปเดตล่าสุด สิงหาคม 2568
* ตัวเลขและลำดับบางรายการเป็นการสังเคราะห์และประมาณการณ์จากหลายแหล่งข่าวและฐานข้อมูลระหว่างประเทศ
* หากต้องนำไปใช้อ้างอิงทางวิชาการ แนะนำตรวจสอบจากต้นทาง Global Firepower, กรมการค้าต่างประเทศ, และข่าวเศรษฐกิจล่าสุด
💬

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

พร้อมให้คำปรึกษาและข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโดรน

LINE: @droneth คลิกเพื่อเพิ่มเพื่อน
thThai
Scroll to Top