ในยุคที่เทคโนโลยีโดรนพัฒนาอย่างรวดเร็ว การเลือกโดรนที่เหมาะสมสำหรับการถ่ายภาพทางอากาศกลายเป็นเรื่องสำคัญไม่น้อย โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการบันทึกภาพอสังหาริมทรัพย์ สร้างคอนเทนต์วิดีโอ หรือแม้แต่พัฒนางานอดิเรกให้กลายเป็นอาชีพ ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับโดรน 4 รุ่นจากแบรนด์ชั้นนำที่ตอบโจทย์ทั้งผู้เริ่มต้นและมืออาชีพ พร้อมวิเคราะห์จุดเด่นและข้อเสียของแต่ละรุ่น เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าควรเลือกโดรนตัวไหนดีที่สุดสำหรับคุณในปี 2025
CR: DJI
1. Specta Mini: โดรนเริ่มต้นราคาประหยัด
Specta Mini เป็นโดรนขนาดเล็กที่มีน้ำหนักน้อยกว่า 250 กรัม ทำให้ไม่ต้องลงทะเบียนกับ FAA (Federal Aviation Administration) และไม่จำเป็นต้องใช้ Remote ID ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานแบบไม่ยุ่งยาก
จุดเด่น:
- ราคาประหยัด: เริ่มต้นเพียง 220 เหรียญสหรัฐ (จากปกติ 270 เหรียญ) ซึ่งถือว่าคุ้มค่าสำหรับโดรนคุณภาพดี
- น้ำหนักเบา: พกพาสะดวก เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวหรือใช้งานทั่วไป
- ไม่มี Geo Fencing: สามารถบินได้ทุกที่โดยไม่มีข้อจำกัดทางซอฟต์แวร์
- ถ่ายวิดีโอ 4K: บันทึกวิดีโอ 4K ที่ 30 เฟรมต่อวินาที
ข้อเสีย:
- ประสิทธิภาพในที่แสงน้อย: เซ็นเซอร์ขนาด 1/2.3 นิ้ว ทำให้ภาพในที่แสงน้อยไม่ค่อยคมชัด
- แบตเตอรี่เฉพาะ: ต้องใช้แบตเตอรี่ของ Specta โดยเฉพาะ ซึ่งบางครั้งอาจหาซื้อได้ยาก
เหมาะสำหรับ: ผู้เริ่มต้นที่ต้องการโดรนราคาประหยัดสำหรับการถ่ายภาพและวิดีโอทั่วไป

2. DJI Mini 4 Pro: โดรนระดับกลางที่สมบูรณ์แบบ
DJI Mini 4 Pro เป็นอัพเกรดจากรุ่นก่อน ๆ ด้วยเซ็นเซอร์ที่ดีขึ้นและระบบหลบหลีกสิ่งกีดขวางที่ช่วยให้การบินปลอดภัยมากขึ้น
จุดเด่น:
- เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ขึ้น: ขนาด 1/1.3 นิ้ว ทำให้ภาพในที่แสงน้อยดีขึ้น
- ระบบหลบหลีกสิ่งกีดขวาง: ช่วยลดความเสี่ยงการชนขณะบิน
- เวลาบินยาวนาน: บินได้นานถึง 34 นาที (หรือ 45 นาทีหากใช้แบตเตอรี่เสริม)
- ถ่ายวิดีโอ 4K 100 เฟรมต่อวินาที: เหมาะสำหรับการสร้างคอนเทนต์ระดับมืออาชีพ
ข้อเสีย:
- ราคาสูงขึ้น: เริ่มต้นที่ 750 เหรียญสหรัฐ สำหรับแพ็คเกจพื้นฐาน
- น้ำหนักเกิน 250 กรัม: ต้องลงทะเบียนกับ FAA หากใช้แบตเตอรี่เสริม
เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ต้องการโดรนคุณภาพสูงสำหรับการถ่ายภาพและวิดีโอระดับกลางถึงมืออาชีพ

3. Specta Air: โดรนระดับสูงสำหรับมืออาชีพ
Specta Air เป็นโดรนที่มาพร้อมกับระบบกล้องคู่และเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ ทำให้ได้ภาพและวิดีโอคุณภาพสูง
จุดเด่น:
- ระบบกล้องคู่: เซ็นเซอร์ 1/1.3 นิ้ว และเลนส์เทเลโฟโต้ ช่วยให้ได้ภาพที่คมชัดและมีรายละเอียด
- ระบบหลบหลีกสิ่งกีดขวางเต็มรูปแบบ: ช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะบิน
- เวลาบินยาวนาน: บินได้นานถึง 46 นาที
- ไม่มี Geo Fencing: สามารถบินได้ทุกที่โดยไม่มีข้อจำกัด
ข้อเสีย:
- แบตเตอรี่เฉพาะ: ต้องใช้แบตเตอรี่ของ Specta โดยเฉพาะ
- ราคาสูง: เริ่มต้นที่ 1,100 เหรียญสหรัฐ
เหมาะสำหรับ: มืออาชีพที่ต้องการโดรนคุณภาพสูงสำหรับการถ่ายภาพอสังหาริมทรัพย์หรือสร้างคอนเทนต์ระดับพรีเมียม

4. DJI Air 3s: โดรนระดับพรีเมียมที่คุ้มค่าที่สุด
DJI Air 3s เป็นโดรนระดับสูงที่มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่และระบบหลบหลีกสิ่งกีดขวางที่สมบูรณ์แบบ
จุดเด่น:
- เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่: เซ็นเซอร์ 1 นิ้วในกล้องหลักและ 1/1.3 นิ้วในเลนส์เทเลโฟโต้
- ระบบหลบหลีกสิ่งกีดขวางเต็มรูปแบบ: ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความแม่นยำขณะบิน
- เวลาบินยาวนาน: บินได้นานถึง 45 นาที
- ถ่ายวิดีโอ 4K 100 เฟรมต่อวินาที: เหมาะสำหรับการสร้างคอนเทนต์ระดับมืออาชีพ
ข้อเสีย:
- ราคาสูง: เริ่มต้นที่ 1,100 เหรียญสหรัฐ และแพ็คเกจ Flymore Combo ราคา 1,600 เหรียญสหรัฐ
- น้ำหนักเกิน 250 กรัม: ต้องลงทะเบียนกับ FAA
เหมาะสำหรับ: มืออาชีพที่ต้องการโดรนคุณภาพสูงสำหรับการถ่ายภาพและวิดีโอระดับพรีเมียม

ตารางเปรียบเทียบโดรน 4 รุ่น
รุ่น | ราคา (USD) | เซ็นเซอร์ | เวลาบิน | ระบบหลบหลีกสิ่งกีดขวาง | Geo Fencing |
---|---|---|---|---|---|
Specta Mini | 220 | 1/2.3 นิ้ว | 31 นาที | ไม่มี | ไม่มี |
DJI Mini 4 Pro | 750 | 1/1.3 นิ้ว | 34 นาที | มี | มี |
Specta Air | 1,100 | 1/1.3 นิ้ว (คู่) | 46 นาที | มี | ไม่มี |
DJI Air 3s | 1,100 | 1 นิ้ว + 1/1.3 นิ้ว | 45 นาที | มี | มี |
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโดรน
1. โดรนรุ่นไหนเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น?
Specta Mini เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้นเนื่องจากราคาประหยัดและใช้งานง่าย
2. โดรนรุ่นไหนถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีที่สุด?
DJI Air 3s และ Specta Air มีเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ที่ทำงานได้ดีในที่แสงน้อย
3. ต้องลงทะเบียนโดรนกับ FAA หรือไม่?
โดรนที่มีน้ำหนักเกิน 250 กรัมต้องลงทะเบียนกับ FAA เช่น DJI Mini 4 Pro (เมื่อใช้แบตเตอรี่เสริม), Specta Air, และ DJI Air 3s
หากสนใจสามารถสอบถามได้ที่
LINE ID: https://lin.ee/MVuGWFC
Website: Drone Association Thailand