
สถานการณ์ความมั่นคงของไทยเริ่มร้อนแรงขึ้น หลังเกิดกรณีตรวจพบ โดรนต้องสงสัย บินใกล้พื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ในจังหวัดจันทบุรี เหตุการณ์นี้ไม่ได้เป็นเพียงการละเมิดน่านฟ้า แต่เป็นเครื่องเตือนถึงภัยจากเทคโนโลยี อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ที่อาจกลายเป็นเครื่องมือสอดแนมยุคใหม่
ผู้เชี่ยวชาญโดรน จากสมาคมอากาศยานไร้คนขับประเทศไทย แสดงความกังวลว่า โดรนเหล่านี้อาจถูกใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลเชิงยุทธศาสตร์ หรืออาจมีเจตนาแฝงที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางทหาร ซึ่งไทยจำเป็นต้องเร่งประเมินและรับมือ
ประเด็นวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญ
1. โดรนสอดแนม: ภัยใกล้ตัวที่มองไม่เห็น
โดรนสมัยใหม่ไม่ใช่เพียงอุปกรณ์บินเพื่อถ่ายภาพธรรมดา แต่ถูกพัฒนาให้สามารถทำงานในภารกิจข่าวกรอง เช่น ตรวจจับความร้อน, ถ่ายภาพกลางคืน, บินเลียบแนวชายแดนอย่างเงียบเชียบ
เหตุการณ์โดรน ที่ถูกตรวจพบใกล้ชายแดนจันทบุรี ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการสอดแนมทางอากาศ การวิเคราะห์เบื้องต้นชี้ว่า โดรนเหล่านี้อาจเป็นโดรนสอดแนม โดยอาศัยการบินใกล้แนวชายแดนเพื่อรวบรวมข้อมูลทางยุทธศาสตร์
ผู้เชี่ยวชาญโดรน ให้ข้อมูลว่า ลักษณะการบินของโดรนต้องสงสัยเหล่านี้มีความผิดปกติ ทั้งด้านความสูง ระยะการบิน และพฤติกรรมที่ต่างจากการใช้งานเชิงพาณิชย์ทั่วไป
2.ความสามารถของเทคโนโลยี UAV ปัจจุบัน
ปัจจุบัน โดรนขนาดกลางที่หาซื้อได้ทั่วไป สามารถดัดแปลงเพื่อการสอดแนมได้อย่างง่ายดาย ความสามารถในการบันทึกภาพในเวลากลางคืนด้วยกล้องอินฟราเรด ทำให้การสอดแนมมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ โดรนยังสามารถติดตั้งหัวรบระเบิดได้ ซึ่งเป็นภัยคุกคามที่ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่ง
3.ไทยพร้อมรับมือแค่ไหน?
แม้ไทยจะมีระบบเรดาร์และอุปกรณ์รบกวนสัญญาณควบคุม (Anti-Drone System) อยู่บ้างแล้ว แต่ ผู้เชี่ยวชาญโดรน เตือนว่า การตรวจจับ UAV ที่มีความสามารถสูง ต้องอาศัยความร่วมมือหลายฝ่าย รวมถึงหน่วยงานทหาร ตำรวจ และพลเรือน เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมและตรวจสอบต้นทางของการบิน
เนื้อหาเต็มของการสัมภาษณ์ โดยสามารถรับชมได้ที่ http://youtube.com/watch?v=_RG2Mdm90Jk
มุมมองทางยุทธศาสตร์
การตอบโต้ด้วย “โดรนต่อต้านโดรน”
หนึ่งในวิธีที่กำลังได้รับความสนใจคือ “โดรนต่อต้านโดรน” หรือการใช้ UAV เพื่อตรวจจับและสกัดโดรนต้องสงสัยโดยเฉพาะ ซึ่งในหลายประเทศได้เริ่มวิจัยและพัฒนาอย่างจริงจัง รวมถึงมีการฝึกเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ UAV ระดับสูงโดยเฉพาะ
บทเรียนจากสงครามต่างประเทศ
เหตุการณ์ในยูเครน, อิสราเอล และอิหร่าน ได้แสดงให้เห็นว่า โดรนไม่ใช่แค่เครื่องมือสอดแนม แต่ยังเป็นส่วนสำคัญของการรบสมัยใหม่ ทั้งในเชิงจิตวิทยาและการโจมตีจริง ซึ่งไทยจำเป็นต้อง เรียนรู้และเตรียมพร้อม จากประสบการณ์ระดับนานาชาติ
สรุป
เหตุการณ์โดรนสอดแนมใกล้ชายแดนเป็นสัญญาณเตือนถึงความสำคัญของการเตรียมพร้อมด้านการป้องกันประเทศ ประเทศไทยต้องเร่งพัฒนาศักยภาพในการตรวจจับและยับยั้งโดรน การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีโดรนต่อต้านโดรน รวมถึงการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ให้มีความเชี่ยวชาญในการรับมือกับภัยคุกคามดังกล่าวเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง การเตรียมพร้อมในด้านนี้จะช่วยให้ประเทศไทยสามารถรักษาความมั่นคงและความปลอดภัยได้อย่างยั่งยืน
“โดรนไม่ใช่ของเล่นอีกต่อไป หากใช้ในทางที่ผิด มันอาจกลายเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ”
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ : LINE @droneth