สูตรสำเร็จในการเขียน Prompt ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
การเขียน Prompt หรือคำสั่งให้กับ AI อย่าง ChatGPT และ Google Bard ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีนั้น มีองค์ประกอบสำคัญ 6 ประการที่ควรพิจารณา โดยเรียงลำดับความสำคัญจากมากไปน้อย ดังนี้
1. Task (งานที่ต้องการให้ทำ)
ควรขึ้นต้นประโยคด้วยคำกริยาที่แสดงการกระทำ เช่น generate, give, write, analyze
ระบุเป้าหมายที่ต้องการให้ชัดเจน
อาจเป็นงานเดียวหรือหลายขั้นตอนก็ได้
2. Context (บริบท)
การให้บริบทที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ ควรถามตัวเองคำถามเหล่านี้:
ผู้ใช้มีพื้นหลังอย่างไร
อะไรคือความสำเร็จที่ต้องการ
สภาพแวดล้อมในการทำงานเป็นอย่างไร
ให้ข้อมูลเท่าที่จำเป็นเพื่อจำกัดขอบเขตของคำตอบ
3. Exemplars (ตัวอย่าง)
การใส่ตัวอย่างลงไปใน prompt จะช่วยเพิ่มคุณภาพของผลลัพธ์อย่างมาก
อาจเป็นตัวอย่างโดยตรงหรือโครงสร้างที่ต้องการ
ไม่จำเป็นต้องมีในทุก prompt แต่ถ้ามีจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
4. Persona (บุคลิกที่ต้องการ)
คิดถึงผู้เชี่ยวชาญที่คุณอยากปรึกษาสำหรับงานนั้นๆ
อาจระบุเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง เช่น Warren Buffett, Steve Jobs
สามารถใช้ตัวละครในนิยายได้ด้วย
5. Format (รูปแบบ)
จินตนาการภาพผลลัพธ์ที่ต้องการ
ระบุรูปแบบให้ชัดเจน เช่น ตาราง อีเมล บทความ โค้ด
เทคนิคพิเศษ: ขอให้ทำตัวหนาเฉพาะส่วนที่มีการแก้ไขเพื่อให้เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจน
6. Tone (น้ำเสียง)
ระบุน้ำเสียงที่ต้องการ เช่น เป็นทางการ เป็นกันเอง มีอารมณ์ขัน
เทคนิค: ถ้านึกคำคุณศัพท์ไม่ออก ให้บอก AI ถึงความรู้สึกที่ต้องการ แล้วขอให้แนะนำคำที่เหมาะสม
ตัวอย่าง Prompt ที่สมบูรณ์
“คุณคือผู้จัดการฝ่ายการตลาดอาวุโสของ Apple (Persona) และเพิ่งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ล่าสุดร่วมกับ Tesla คือ Apple Car โดยได้รับการสั่งจองล่วงหน้า 12,000 รายการ ซึ่งสูงกว่าเป้าหมาย 200% (Context)
กรุณาเขียนอีเมลถึงหัวหน้าของคุณ Tim Cook (Task) โดยมีรูปแบบดังนี้ (Format):
ส่วน TL;DR (สรุปสั้นๆ)
ที่มาของโครงการ
ผลลัพธ์ทางธุรกิจพร้อมตัวเลข
ข้อความขอบคุณทีมผลิตและวิศวกรรม
ให้ใช้ภาษาที่กระชับ ชัดเจน และแสดงความมั่นใจแต่เป็นมิตร (Tone)”
สรุป
การใช้องค์ประกอบทั้ง 6 ประการนี้จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพและตรงตามความต้องการมากกว่าการเขียน prompt แบบสั้นๆ ไม่จำเป็นต้องใช้ครบทุกองค์ประกอบ แต่ควรมี Task เป็นหลัก และเพิ่มองค์ประกอบอื่นๆ ตามความเหมาะสม