Drone Association Thailand

ประกาศคลายล็อกบินโดรน 16 ส.ค. – 31 ส.ค. 2568 ทั่วประเทศ

สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ออกประกาศฉบับที่ 4 พ.ศ. 2568 อนุญาตให้ทำการบินหรือปล่อยอากาศยานที่ไม่มีนักบิน (โดรน) ทุกประเภทได้ ภายใต้เงื่อนไขพื้นที่ห้ามบิน ตั้งแต่วันที่ 16 – 31 สิงหาคม 2568 เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา มีแนวโน้มคลี่คลายลง

📋 สาระสำคัญของประกาศฉบับนี้

อนุญาตบินโดรนทุกประเภท รวมถึงโดรนเกษตร ภายใต้เงื่อนไข
ระยะเวลา: 16 – 31 สิงหาคม 2568
เงื่อนไขพิเศษ: ต้องแจ้งล่วงหน้า 3 วัน และปฏิบัติตามพื้นที่ห้ามบิน

ข้อความต้นฉบับตามประกาศ

ประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย
เรื่อง ห้ามบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก (Drone)
ในพื้นที่ที่อาจกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในช่วงสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา (ฉบับที่ ๔)
พ.ศ. ๒๕๖๘

ตามที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยได้ออกประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง ห้ามบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก (Drone) ในพื้นที่ที่อาจกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในช่วงสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๘ ประกาศ ณ วันที่ ๓๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ โดยให้มีผลใช้บังคับจนถึงวันที่ ๑๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ และประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง ห้ามบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก (Drone) ในพื้นที่ที่อาจกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในช่วงสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๘ ประกาศ ณ วันที่ ๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ โดยยังห้ามมิให้ผู้ใดบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก (Drone) ของพลเรือน ทุกวัตถุประสงค์การใช้งาน ทุกพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร โดยเด็ดขาด แต่ได้ผ่อนปรนให้กับการปฏิบัติการบินทางการเกษตรภายใต้เงื่อนไขและข้อจำกัดและพื้นที่ที่กำหนด นั้น

อย่างไรก็ตามได้มีการประเมินสถานการณ์ภายหลังการมีผลบังคับใช้ของประกาศดังกล่าวอย่างใกล้ชิด พร้อมวิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน ควบคู่กับการติดตามและประเมินสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างต่อเนื่องร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง ปรากฏว่าสถานการณ์โดยรวมมีแนวโน้มคลี่คลายลงในระดับที่สามารถผ่อนคลายมาตรการควบคุมการบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก (Drone) ของพลเรือนได้บางส่วน โดยยังคงให้ความสำคัญสูงสุดต่อการรักษาความมั่นคงของประเทศ ความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัยของการปฏิบัติการด้านความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินชีวิตของประชาชนและการประกอบกิจการต่าง ๆ สามารถกลับมาดำเนินได้ใกล้เคียงภาวะปกติ ขณะเดียวกันยังคงมาตรการป้องกันมิให้การบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก (Drone) ที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคง จึงเห็นสมควรกำหนดให้การบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก (Drone) ของพลเรือนทุกวัตถุประสงค์การใช้งานสามารถปฏิบัติการบินได้ภายใต้เงื่อนไขและข้อจำกัดที่รัดกุม

อาศัยอำนาจตามมาตรา ๒๔ แห่งพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. ๒๔๙๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ประกอบคำสั่งกระทรวงคมนาคม ที่ ๒๙๓/๒๕๖๘ เรื่อง มอบหมายให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยปฏิบัติการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สั่ง ณ วันที่ ๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ ที่มอบหมายให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยโดยผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยปฏิบัติการตามมาตรา ๒๔ แห่งพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. ๒๔๙๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติมแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในการอนุญาตให้บังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑
ให้ยกเลิกประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง ห้ามบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก (Drone) ในพื้นที่ที่อาจกระทบต่อความมั่นคงของประเทศในช่วงสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๘ ประกาศ ณ วันที่ ๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๘

ข้อ ๒
อนุญาตให้ผู้ซึ่งปฏิบัติตามข้อ ๓ สามารถบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก (Drone) ของพลเรือนได้ทุกวัตถุประสงค์การใช้งานในทุกพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร ยกเว้นพื้นที่ที่ยังคงห้ามปฏิบัติการบินตามข้อ ๔ และต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขและข้อจำกัดในการปฏิบัติการบินที่กำหนดตามข้อ ๕

ข้อ ๓
ผู้ที่จะได้รับการอนุญาตให้บังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก (Drone) ตามประกาศนี้ จะต้องปฏิบัติตามประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง หลักเกณฑ์การขออนุญาตและเงื่อนไขในการบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก พ.ศ. ๒๕๕๘ หรือ ประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง หลักเกณฑ์การขออนุญาตและเงื่อนไขในการบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอกที่มีน้ำหนักเกิน ๒๕ กิโลกรัม พ.ศ. ๒๕๖๗ แล้วแต่กรณี อย่างเคร่งครัด โดยจะสามารถปฏิบัติการบินได้เมื่อ

(๑) มีหนังสือการขึ้นทะเบียนผู้บังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก ที่ยังไม่หมดอายุ
(๒) มีทะเบียนอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก โดยระบุวัตถุประสงค์การปฏิบัติการบิน
(๓) ยื่นขออนุญาตปฏิบัติการบินต่อสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยผ่านแอปพลิเคชัน UAS Portal หรือ uasportal.caat.or.th
(๔) ไม่มีประวัติการฝ่าฝืนหรือถูกเพิกถอนหนังสือการขึ้นทะเบียนผู้บังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน หรือหนังสืออนุญาตให้ปฏิบัติการบิน
(๕) มีสำเนากรมธรรม์ประกันภัยซึ่งแสดงรายละเอียดความคุ้มครองความเสียหายอันเกิดแก่ร่างกาย ชีวิต ตลอดจนทรัพย์สินของบุคคลที่สามที่ยังมีผลใช้บังคับครอบคลุมระยะเวลาที่ขออนุญาตปฏิบัติการบิน โดยมีวงเงินความคุ้มครองบุคคลที่สามตามที่กฎหมายกำหนด

เมื่อผู้อำนวยการสำนักงานการบินแห่งประเทศไทยตรวจสอบข้อมูลตามวรรคหนึ่งแล้วเห็นว่ามีความถูกต้องและครบถ้วน จะอนุญาตให้อากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก (Drone) สามารถปฏิบัติการบินได้ตามเงื่อนไขข้อจำกัดและพื้นที่ที่กำหนดตามประกาศนี้

ข้อ ๔
ยังคงห้ามบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก (Drone) ของพลเรือน ทุกวัตถุประสงค์การใช้งาน ปฏิบัติการบินในพื้นที่ที่อาจมีผลกระทบต่อการรักษาความปลอดภัย ความสงบเรียบร้อย และความมั่นคงของประเทศในสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา ดังต่อไปนี้ โดยเด็ดขาด

(๑) พื้นที่ห้วงอากาศตามพื้นที่หวงห้ามเด็ดขาด พื้นที่หวงห้ามเฉพาะ และพื้นที่อันตราย และตามที่ประกาศในเอกสารแถลงข่าวการบินของประเทศไทย (Aeronautical Information Publication – Thailand หรือ AIP Thailand)

(ก) VTP7 SATTAHIP (บริเวณฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี)

(ข) VTP36 KHAO SOIDAO TAI (บริเวณจังหวัดจันทบุรี)

(ค) VTP37 KHAO KHLONG OA (บริเวณจังหวัดตราด)

(ต) VTP38 KO CHANG – KO KHUD (บริเวณจังหวัดตราด)

(จ) VTD16 RATCHABURI AREA 2 (บริเวณจังหวัดราชบุรี)

(ฉ) VTD30 WEST NAKHON RATCHASIMA (บริเวณจังหวัดสุรินทร์ จังหวัดบุรีรัมย์ และนครราชสีมา)

(ช) VTD32 NAKHON RATCHASIMA (บริเวณจังหวัดนครราชสีมา)

(ซ) VTD34 PHETCHABUN, PHICHIT (บริเวณจังหวัดเพชรบูรณ์และจังหวัดพิจิตร)

(ฌ) VTD40 KABIN BURI/WATTANA NAKHON, PRACHIN BURI (บริเวณจังหวัดปราจีนบุรีและจังหวัดสระแก้ว)

(ญ) VTD43 LOP BURI (บริเวณจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดลพบุรี)

(ฎ) VTD45 UBON, SI SA KET (บริเวณจังหวัดศรีสะเกษ)

(ฏ) VTD46 NAKHON RATCHASIMA (บริเวณจังหวัดนครราชสีมา)

(ฐ) VTD53 PHITSANULOK (บริเวณจังหวัดนครสวรรค์)

(ฑ) VTD54 UBON (บริเวณจังหวัดอุบลราชธานี)

(ฒ) VTD55 UBON (บริเวณจังหวัดอุบลราชธานี)

(ณ) VTR62 EASTERN AREA (บริเวณจังหวัดสระแก้ว จังหวัดตราด จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดสุรินทร์)

(๒) พื้นที่ที่มีการประกาศกฎอัยการศึก หรือพื้นที่ที่มีการวางกองกำลัง หรือการปฏิบัติการภาคพื้น ได้แก่ จังหวัดสระแก้ว จังหวัดตราด จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดจันทบุรี จังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดอุบลราชธานี
(๓) พื้นที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และอำเภอเมือง จังหวัดระยอง
(๔) พื้นที่ภายในระยะเก้ากิโลเมตร (ห้าไมล์ทะเล) จากสนามบินหรือที่ขึ้นลงชั่วคราวของอากาศยานทุกแห่ง
(๕) พื้นที่ที่หน่วยงานความมั่นคงประกาศห้ามเป็นการเฉพาะเพิ่มเติม

ทั้งนี้ พื้นที่ตาม (๑) (๒) (๓) และ (๔) มีรายละเอียดตามภาคผนวกแนบท้ายประกาศนี้

ข้อ ๕
ผู้ที่จะได้รับการอนุญาตให้บังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก (Drone) ตามประกาศนี้ จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขและข้อจำกัดในการปฏิบัติการบิน ดังต่อไปนี้

(๑) ต้องแจ้งข้อมูลพื้นที่ที่ปฏิบัติการบิน วันและเวลา และวัตถุประสงค์การปฏิบัติการบินล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๓ วัน ก่อนการปฏิบัติการบินทุกครั้ง ผ่านช่องทาง ดังต่อไปนี้
(ก) แจ้งต่อสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยผ่านแอปพลิเคชัน UAS Portal หรือ uasportal.caat.or.th และ
(ข) แจ้งต่อศูนย์ต่อต้านอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก (โดรน) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศตอ.น.) ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์: antidrone.police@gmail.com
(๒) ปฏิบัติการบินที่ความสูงไม่เกิน ๙๐ เมตร (๓๐๐ ฟุต)
(๓) ปฏิบัติการบินในระหว่างเวลา ๐๖.๐๐ น. ถึง ๑๘.๐๐ น. เท่านั้น ห้ามบินในช่วงกลางคืนไม่ว่ากรณีใด ๆ

การปฏิบัติการบินในพื้นที่ที่ไม่ใช่พื้นที่ตามข้อ ๔ ที่แตกต่างจากเงื่อนไขและข้อจำกัดตาม (๒) หรือการปฏิบัติการบินที่แตกต่างจากเงื่อนไขอื่น ๆ ตามที่กำหนดในข้อ ๑๗ ของประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง หลักเกณฑ์การขออนุญาตและเงื่อนไขในการบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก พ.ศ. ๒๕๕๘ หรือข้อ ๒๑ ของประกาศกระทรวงคมนาคม เรื่อง หลักเกณฑ์การขออนุญาตและเงื่อนไขในการบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอกที่มีน้ำหนักเกิน ๒๕ กิโลกรัม พ.ศ. ๒๕๖๗ แล้วแต่กรณี ให้ขอปฏิบัติแตกต่างจากเงื่อนไขที่กำหนดต่อสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยผ่านช่องทาง UAS Portal หรือ uasportal.caat.or.th

ข้อ ๖
ผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับตามมาตรา ๗๘ (๑) แห่งพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. ๒๔๙๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารมีอำนาจทำลายอากาศยานจากภาคพื้นดิน ตามมาตรา ๑๐ (๓) แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการปฏิบัติต่ออากาศยานที่กระทำผิดกฎหมาย พ.ศ. ๒๕๕๓ หรือหน่วยงานด้านความมั่นคงของรัฐที่ได้รับมอบหมาย มีอำนาจดำเนินการตอบโต้อากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก (Drone) ที่ฝ่าฝืนประกาศนี้ รวมถึงการใช้ระบบต่อต้านอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน (Anti-Drone System)

ข้อ ๗
ผู้ใดพบเห็นหรือทราบว่ามีการบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก (Drone) ที่ฝ่าฝืนประกาศนี้ ให้แจ้งข้อมูล ได้แก่ วัน เวลา สถานที่ที่พบเห็น ลักษณะของโดรน และภาพถ่ายหรือคลิปวิดีโอ (ถ้ามี) ไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยเร็ว ผ่านช่องทางใดช่องทางหนึ่ง ดังนี้

(๑) กองพัฒนามาตรฐานและเทคโนโลยีระบบอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน
ฝ่ายมาตรฐานอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย
โทรศัพท์ ๐๒-๕๖๘-๘๘๕๑
ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์: uas_us@caat.or.th

(๒) ศูนย์ต่อต้านอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก (โดรน) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศตอ.น.)
โทรศัพท์: ๐๒-๑๒๖-๗๘๔๖
ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์: antidrone.police@gmail.com

(๓) ศูนย์แจ้งเหตุใกล้พื้นที่ เช่น สถานีตำรวจท้องที่ หน่วยทหาร หรือหน่วยความมั่นคงที่รับผิดชอบในพื้นที่นั้น ๆ

ข้อ ๘
การบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก (Drone) ของราชการทหาร ราชการตำรวจ ราชการศุลกากร ราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และราชการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ สามารถดำเนินการได้ตามอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของหน่วยงาน

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนและอำนวยความสะดวกต่อการปฏิบัติงานของหน่วยงานด้านความมั่นคง หากการปฏิบัติการบินของราชการศุลกากร ราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อยู่ในพื้นที่ที่อาจมีผลกระทบต่อการรักษาความปลอดภัย ความสงบเรียบร้อย และความมั่นคงของประเทศในสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา ตามที่กำหนดในข้อ ๔ ขอความร่วมมือแจ้งข้อมูลพื้นที่ที่ปฏิบัติการบิน วันและเวลา ความสูง และวัตถุประสงค์การปฏิบัติการบินล่วงหน้าก่อนการปฏิบัติการบินทุกครั้ง ผ่านช่องทาง ดังต่อไปนี้
(ก) แจ้งต่อสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยผ่านแอปพลิเคชัน UAS Portal หรือ uasportal.caat.or.th และ
(ข) แจ้งต่อศูนย์ต่อต้านอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน ประเภทอากาศยานที่ควบคุมการบินจากภายนอก (โดรน) กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ศตอ.น.) ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์: antidrone.police@gmail.com และ
(ค) แจ้งต่อหน่วยทหาร หรือหน่วยความมั่นคงที่รับผิดชอบในพื้นที่นั้น ๆ

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ จนถึงวันที่ ๓๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น

ประกาศ ณ วันที่ ๑๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๘

พลอากาศเอก
(มนัท ชวนะประยูร)
ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย

⚠️ เงื่อนไขสำคัญในการบินโดรน

🚫 พื้นที่ห้ามบิน

  • จังหวัดชายแดน 7 จังหวัด: สระแก้ว, ตราด, บุรีรัมย์, ศรีสะเกษ, จันทบุรี, สุรินทร์, อุบลราชธานี
  • อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
  • อำเภอเมือง จังหวัดระยอง
  • รัศมี 9 กิโลเมตร รอบสนามบินและจุดขึ้นลงอากาศยานทุกแห่ง
  • พื้นที่เพิ่มเติม ที่หน่วยงานความมั่นคงประกาศเป็นการเฉพาะ

📱 การแจ้งล่วงหน้า

  • แจ้งข้อมูลพื้นที่ วัน เวลา และวัตถุประสงค์ ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3 วัน
  • ผ่าน UAS Portal แอปพลิเคชัน หรือ uasportal.caat.or.th
  • แจ้งต่อศูนย์บังคับฯ กองบัญชาการตำรวจนครบาล: antidrone.police@gmail.com

เวลาบิน

  • 06.00 – 18.00 น. เท่านั้น
  • ห้ามบินในเวลากลางคืนทุกกรณี

🏛️ โดรนราชการ

โดรนของหน่วยงานต่อไปนี้สามารถปฏิบัติการได้ตามอำนาจหน้าที่:

  • ทหาร
  • ตำรวจ
  • ศุลกากร
  • กระทรวงเกษตรฯ
  • กระทรวงทรัพยากรฯ
  • สำนักข่าวกรองฯ

หมายเหตุ: โดรนของศุลกากร กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงทรัพยากรฯ หากบินในพื้นที่ห้ามบิน ต้องแจ้งข้อมูลล่วงหน้าผ่าน UAS Portal

🔍 หากพบเห็นการใช้งานโดรนที่ผิดกฎหมาย

แจ้งข้อมูล ได้แก่ วัน เวลา สถานที่ ลักษณะของโดรน และภาพถ่าย/คลิปวิดีโอ (ถ้ามี) ไปยัง:

📞 ช่องทางแจ้งเบาะแส

1. สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT)

2. ตำรวจนครบาล – ศูนย์ต่อต้านอากาศยานไร้นักบิน

3. สถานีตำรวจท้องที่ หรือหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ใกล้เคียง

💡 ข้อเรียกร้องพิเศษ

CAAT ขอความร่วมมือให้ผู้ใช้งานโดรนเกษตรทุกรายขึ้นทะเบียนโดรนฟรี ผ่านระบบ UAS Portal เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนผ่านระเบียบกฎหมายในอนาคต

พลอากาศเอก มนัท ชวนะประยูร ผู้อำนวยการ CAAT กล่าวว่า “สถานการณ์โดยรวมมีแนวโน้มคลี่คลายลงในระดับที่สามารถผ่อนคลายมาตรการควบคุมการใช้โดรนของพลเรือนได้บางส่วน โดยยังคงให้ความสำคัญสูงสุดต่อการรักษาความมั่นคงของประเทศ”


ติดตามข่าวสารความขัดแย้ง ไทย – กัมพูชาและเทคโนโลยีโดรนต่างต่าง ๆ ได้ที่ https://drone.or.th/drone-border-tension/
หรือ 🌐 ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ : LINE @droneth

ตรวจสอบพื้นที่อนุญาตได้ที่: UAS Portal แอปพลิเคชัน

 
thThai
Scroll to Top